วันเสาร์ที่ 12 เมษายน พ.ศ. 2557

(สปอยด์) A MUSE EUN GYO (2012) เด็กสาวกับชายแก่ : เด็กหอดูหนัง

สวัสดีค่ะ...

ผ่านเข้าสู่ช่วงปิดเทอมมาได้สักพักนึงแล้ว แล้วก็กลับมาอยู่ที่บ้านด้วยเหตุจากการที่มหาวิทยาลัย เปลี่ยนรูปแบบการเปิดเทอมเพื่อต้อนรับประชาคมอาเซียน ทำให้คราวนี้เวลาสำหรับหยุดนั้น ยาวนานถึงหกเดือน จขบ.ที่ปกติอยู่เชียงใหม่จะได้ดูหนังในโรงประจำ ก็เลยต้องเปลี่ยนมาอาศัยดูหนังผ่านเว็บแทน

ปกติแล้วเป็นคนที่นอกจากหนังในกระแสที่เค้าดูๆกัน ก็จะชอบสุ่มดูหนังเรื่องนู้นเรื่องนี้แบบหว่านๆ อาศัยหน้าปกน่าสนใจ หรือเลือกดูในแนวที่ชอบ อย่างหนังจิตวิทยา หนังแนวอบอุ่น หนังปรัชญา หรือไม่ก็หนังจำพวกที่ให้อารมณ์กดดัน โดยไม่ได้สนใจถึงองค์ประกอบหรือคนแสดง แต่จะค่อยๆคิดตามเนื้อเรื่อง และสนุกไปกับการวิเคราะห์ว่าเราได้อะไรจากหนังมากกว่า

คราวนี้ จากที่ตอนแรกตั้งใจจะหาหนังเกาหลีจำพวกฟีลกู๊ดอบอุ่นดูสักเรื่อง แต่ก็กลับไปสะดุดตากับชื่อเรื่อง และใบปิดหนังของเรื่องนี้เข้าเสียก่อน

เราถูกผู้หญิงในรูปดึงให้เรานั่งมองอยู่ได้นานสองนาน และไม่รู้ทำไม มันทำให้เรานึกถึงหนังเกาหลีเรื่องหนึ่งที่เราไม่เคยคิดจะหยิบมันมาดูอีกครั้ง แต่เรากลับจำมันได้ดี "Old Boy" 

เราใช้เวลาอ่านรีวิวที่มีอยู่น้อยนิดของเรื่องนี้ ในเน็ตสักพักหนึ่ง แล้วก็ตัดสินใจว่าจะดูมันแม้จะมีคำโปรยไว้ก่อนว่าเรื่องนี้ติดเรท 18+ 

เริ่มเรื่องแล้วนะคะ

เรื่องเปิดมาที่ชายแก่อายุ70คนหนึ่ง เป็นนักเขียนที่มีชื่อเสียงในวงการวรรณกรรมมายาวนาน เขาอาศัยอยู่ในบ้านหลังขนาดกลาง โดยมีลูกศิษย์ซึ่งเรียนจบวิศวะกรแต่ผันตัวมาเป็นนักเขียน มาคอยดูแล

บ่ายวันหนึ่ง พวกเขากลับมาพบกับเด็กสาวแปลกหน้าวัย17กำลังนอนหลับสบายอยู่ที่เก้าอี้นอนหน้าบ้านของเขา เธอแนะนำตัวว่าชื่ออึนกิว บ้านอยู่ไม่ไกลจากบ้านชายแก่นัก และแอบเข้ามาหลับที่นี่เป็นประจำ ชายแก่ สะดุดใจกับความน่ารักสดใสราวกับดอกไม้ที่เบ่งบานสะพรั่งท่ามกลางหยาดน้ำฝน ที่สุด เธอก็กลายมาเป็นคนดูแลบ้านให้กับชายแก่ ในยามที่ลูกศิษย์ของเขาไม่อยู่

ชายแก่ถูกเสน่ห์แบบซื่อๆของอึนกิวยั่วยวนอยู่ทุกขณะวินาที ไม่ว่าจะเป็นการโชว์กางเกงในแบบไม่ระวังตัว การเข้ามาคลุกคลีสัมผัสใกล้ชิด การใส่เสื้อรัดๆและกระโปรงสั้นเดินไปไหนมาไหนในบ้าน หรือแม้แต่การไม่ระวังตัวที่จะปกปิดเนินเนื้อบริเวณหน้าอกที่กำลังพัฒนาขึ้นตามวัยของเด็กซึ่งกำลังจะแตกสาว
นอกจากนั้นนิสัยอันน่ารักและสดใส ก็ทำให้จิตใจของชายแก่ถูกเติมเต็มอย่างช้าๆ

แต่สำหรับอึนกิวแล้ว ท่าทางที่แสดงออกทำให้เขารู้ว่า เธอไม่ได้คิดอะไรกับเขาเกินไปกว่าคุณตาคนหนึ่ง

ชายแก่ซึ่งหลงใหลอึนกิวอย่างล้ำลึกขึ้นทุกวัน สำนึกตัวดีว่า เขากับเธอไม่คู่ควรกันแม้แต่เพียงน้อย เขาจึงเก็บเอาความฝันอันลึกล้ำที่เขามีต่อเธอ มาบรรยายลงในงานเขียน และคิดจะเก็บมันไว้เป็นความลับที่มีแต่เพียงเขาเท่านั้นที่ล่วงรู้

แต่มันก็ถูกเปิดเผยจนได้...

ลูกศิษย์ของเขาเอง ขโมยผลงานเรื่อง"อึนกิว"ที่ชายแก่เขียน ไปตีพิมพ์ในนามของตัวเอง และแท้จริงแล้ว เขาไม่เคยเขียนงานอะไรได้เลย หนังสือเล่มปัจจุบันที่กำลังสร้างชื่อเสียงให้เขาได้โลดแล่นในวงการ ก็เป็นแค่งานที่อาจารย์เขียนเล่นๆ และส่งต่อให้เขานำมันไปใช้เพื่อส่งตัวเองให้สูงขึ้นไป เขาถูกความแค้นนี้ครอบงำมาตลอด  ชายแก่โกรธ แต่เขาไม่สามารถทวงมันคืนได้ เพราะเขาไม่ต้องการให้อึนกิวรู้ ว่าตนเองเป็นคนแต่งมันขึ้นมา

เด็กสาวอึนกิวในวัยที่กำลังสับสนกับเรื่องรอบด้าน และมีความต้องการในตัวของเพศตรงข้าม เมื่อเธอได้อ่านมัน และคิดไปว่าชายหนุ่มลูกศิษย์ของอาจารย์เป็นคนเขียน เธอจึงค่อยขยับเข้าหาเขามากขึ้นเพื่อทำตามเสียงเรียกร้องของร่างกาย

ในวันเกิดของชายแก่ ทั้งสามคนกลับมารวมตัวกันที่บ้าน ในบรรยากาศที่อึดอัด ที่สุดชายแก่ก็ขอตัวไปนอนโดยมีอึนกิวเดินตามมาส่ง เธอพูดสุขสันต์วันเกิด เขาจึงกอดเธอไว้ในแบบที่ไม่เรียกร้องอะไร เธอกอดตอบเขาและปล่อยออก เด็กสาวมองชายแก่ ประทับริมฝีปากบนหน้าฝากของเขา ก่อนก้าวออกจากห้องไป "ราตรีสวัสดิ์เช่นกันอึนกิว" ชายแก่พูดไล่หลัง ก่อนล้มตัวลงนอน

ชายแก่สะดุ้งตื่นขึ้นกลางดึก เพราะเสียงขยับของโต๊ะที่ชั้นใต้ดิน และเสียงครางที่ดังมาแผ่วๆ และเมื่อหาต้นตอของเสียงเจอ เขาก็พบกับร่างสองร่างของอึนกิวและชายหนุ่มลูกศิษย์ที่กำลังมีสัมพันธ์สวาทกันอยู่ที่ห้องทำงานของเขาเอง เขานิ่งงัน และปีนลงจากบันไดที่ใช้ปีนแอบดูอย่างเงียบเชียบ

ชายแก่จัดการขันเพลาล้อรถตัวเองให้หลวม ปล่อยลมยางล้อรถของชายหนุ่ม และรอดูผลจากการกระทำของเขาที่จะเกิดขึ้นในตอนเช้า ตามคาด ชายหนุ่มขับรถที่เขาวางยาเอาไว้ออกไป และประสบอุบัติเหตุเล็กน้อย หลังจากเอารถไปซ่อม ชายหนุ่มก็รีบขับรถเพื่อกลับมาหาชายแก่ด้วยความเกรี้ยวกราด เพราะรู้ว่าตนเองจะโดนฆ่า ...เขาประสบอุบัติเหตุอีกครั้ง คราวนี้มันร้ายแรงจนถึงแก่ชีวิต และเป็นความประมาทของเขาเองที่ส่งให้เขาไปตาย

 เป็นเวลาหลายวัน กว่าที่อึนกิวจะกลับไปที่บ้านของชายแก่ หลังจากชายหนุ่มตาย เธอก็เอะใจ และรู้ความจริงเข้าจนได้ว่า เรื่อง"อึนกิว"นั้น คนที่เขียนขึ้นมาก็คือชายแก่ 

เธอเข้าไปในบ้าน สภาพของทุกอย่างดูรกรุงรังขาดการดูแล จารชามอาหารมีแมลงวันไต่ตอม ขวดเหล้ากระจายเกลื่อนอยู่ตามพื้น เธอพบชายแก่นอนขดตัวนิ่งอยู่มุมหนึ่ง อึนกิวเข้าไปเขย่าตัวและร้องเรียกเขา แต่เธอก็หยุดมันลง เมื่อได้กลิ่นสาบเหม็นเน่าลอยออกมาจากร่างของชายแก่...

เธอเริ่มร้องให้และสารภาพทุกอย่าง แท้จริงแล้วคนที่เธอรักไม่ใช่ชายหนุ่ม แต่เป็นชายแก่นั่นเอง เธอตกหลุมรักในความอบอุ่นและอ่อนโยนที่เธอได้รับ เธอเองก็ถูกชายแก่เติมเต็มทีละน้อยเช่นกัน การที่เธอมีสัมพันธ์กับชายหนุ่ม ก็เกิดขึ้นเพียงเพราะความต้องการของร่างกาย และความเหงาที่มี

"ฉันเป็นของคุณนะคะ" เธอพูดและซบหน้าลงกับหลังของชายแก่ที่ยังคงแน่นิ่ง "ลาก่อนค่ะ คุณตา" เธอกล่าวส่งท้าย วางช่อดอกไม้สีขาวในมือลง และเดินหายออกจากบ้านไป

"ลาก่อน อึนกิว" ชายแก่ขยับปากพูด และค่อยๆเปิดเปลือกตาขึ้น...

...............................................................................................................................

เรารู้สึกว่า มันเป็นหนังที่ค่อนข้างกดดัน และมีบรรยากาศหน่วงๆอยู่ตลอดเรื่อง หนังสอนให้เรามองเห็นสภาพจิตใจที่แสนจะยุ่งเหยิงของมนุษย์ วุฒิภาวะที่มากขึ้น ไม่ได้ทำให้เรากลายเป็นคนคิดดีทำดี แต่มันกลับสอนให้เราข่มใจตัวเองไม่ให้ทำชั่วได้มากขึ้นต่างหาก 

ฉากเซ็ก และโชว์เรือนร่างมีให้เห็นแบบจะๆไม่ปิดบัง ไม่มีเซนเซอร์ ตั้งแต่ท่อนบนยันท่อนล่าง ดังนั้นจึงน่าจะเหมาะกับผู้ใหญ่มากกว่า ทั้งเนื้อหายังหนักหน่วงและผิดศีลธรรมอยู่ไม่น้อย แต่เราก็ไม่สามารถปฏิเสธได้ ว่าเรื่องแบบนี้สามารถเกิดขึ้นในสังคมได้ ไม่ว่าเราจะพยายามปกปิด หรือไม่ยอมรับมันเท่าไรก็ตาม

เราเลือกที่จะมองข้ามฉากอีโรติคเหล่านั้น และดิ่งตัวเองลงกับเนื้อหา แบบที่ชอบทำอยู่เสมอๆ เราจึงค่อนข้างสนุก และรู้สึกว่าหนังแนวนี้มีเสน่ห์ดึงดูดเอามากๆ

สุดท้ายนี้ ขอให้ทุกท่านมีความสุขกับหนังที่เลือกนะคะ เชื่อว่าหนังทุกเรื่อง มีเสน่ห์ในตัวเองเสมอค่ะ สุขสันต์วันสงกรานต์นะคะทุกท่าน ^ ^

วันพฤหัสบดีที่ 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

เด็กหอดูหนัง : (สปอยด์) ตายโหง ตายเฮี้ยน (ฉบับเกือบสาย หนังใกล้จะออกโรง = =)

เคยเป็นกันมั้ยคะ??

เวลามีเรื่องเครียดๆรอให้ไปทำอยู่ เรามักจะหาทางออกโดยการหนีมันไปสักพัก เพราะไม่มีอารมณ์จะเผชิญหน้ากับมัน เป็นการหนีแบบชั่วคราว เหมือนกับว่าขอไปตั้งหลักก่อน

จขบ.กำลังอยู่ในภาวะนั้นค่ะ ช่วงการสอบอัดแน่นเกือบเต็มสองสัปดาห์ที่กำลังจะมาถึง ทำให้จขบ.ขอหนีมาตั้งหลักก่อน และที่ๆนึกได้หลังจากประมวลผลมาเรียบร้อยก็คือ "โรงหนัง"ค่ะ

เนื่องจากที่เชียงใหม่เพิ่งจะมีการเปิดตัวห้างMAYAมาแบบสดๆร้อนๆ และมีโรงหนังในเครือเอสเอฟมาเปิดด้วย จขบ.ที่ปกติมักจะเป็นลูกค้าของเมเจอร์ ก็เลยขอมาลองดูหนังที่โรงใหม่ซะหน่อย

โดยเป้าหมายของการดูในครั้งนี้คือเรื่อง "ตายโหง ตายเฮี้ยน" หนังผีจากเรื่องจริง ภาคต่อของ "ตายโหง" จากค่ายพระนครฟิล์มค่ะ



(แปะรูปโปสเตอร์กันซักนิด ความเละของผีส่องประกายมาเชียวววว)

ตามคอนเซปเดิมค่ะ คือ"หนังผี...ต้องดูคนเดียว...ยิ่งทั้งแถวมีคนเดียวยิ่งดี" มีเพื่อนสองคนมาส่ง แต่พวกนางขอตัวไปดูเรื่องอื่น เพราะไม่อยากเอาชีวิตมาเสี่ยงให้นอนไม่หลับเล่น

พอเข้าโรงมาก็พบว่าแถวที่จขบ.นั่ง มีสิ่งมีชีวิตนับรวมได้สามคน และรวมทั้งโรงคงไม่เกินสิบห้าคน โรงก็ไม่ใช่เล็กนะคะ (มาดูหนังช่วงใกล้ออกโรงก็แบบนี้ T^T)

บรรทัดต่อไปมาเริ่มสปอยด์เนื้อหาหนังกันเลยค่าาาาา

หนังแบ่งเป็นสี่ตอนด้วยกันค่ะ คือ 14/16/15/13 (ชื่อตอนจริงๆนะคะ ไม่ใช่วันที่ - - แต่เอาจริงๆจขบ.ว่ามันก็เป็นการตั้งชื่อตอนที่เก๋ดีนะ)

14 : คดีรถตู้ตกทางด่วน เสียชีวิตเก้าศพ (นำแสดงโดย น้องใบเฟิร์น พิมพ์ชนก)

แอนต์(น้องใบเฟิร์น) นักศึกษาฝึกงานที่ต้องอยู่ทำงานที่ออฟฟิศจนดึกดื่น เธอกำลังโกรธแฟนหนุ่มที่เธอจับได้ว่าแอบไปมีกิ๊ก จึงไม่ยอมรับโทรศัพท์ที่ฝ่ายชายพยายามโทรมาหา ขณะนั้นเอง เครื่องถ่ายเอกสารก็ทำงานขึ้นมา (เสียงตุ้งแช่สะบัดมาก จขบ.นี่สะดุ้งไม่พลาดสักเม็ด) โดยเมื่อเธอเดินไปดู มันกลับเป็นรูปเส้นผมที่ยาวออกมาเรื่อยๆ แอนต์รีบหนีออกมาและลงไปขึ้นรถตู้โดยสารเที่ยวสุดท้ายของวัน และขณะที่เธอกำลังเปิดดูไลน์ที่ชายหนุ่มส่งมา ผู้หญิงคนหนึ่งก็ก้าวขึ้นมานั่งบริเวณเบาะข้างๆของเธอ ผู้หญิงคนนั้นกำลังร้องให้สะอึกสะอื้น ทั้งคู่สบตากันครู่หนึ่ง แอนต์ที่ไม่อยากรับรู้เรื่องราวรอบข้าง จึงใส่หูฟังเพลง และหลับตาลง เธอตื่นขึ้นมาอีกครั้งหลังจากผ่านไปสักพัก ผู้โดยสารบนรถหายไปหมด เธอจึงออกมาจากรถและเดินไปดูรอบๆ ด้วยการชะโงกลงไปดูด้านล่าง ทำให้ไม่เห็นภาพไว้อาลัยคนตายที่วางอยู่อีกฝั่งของถนน (คือคนปกติ ถ้าจะตรวจสอบอะไรมักจะสนใจของระดับสายตามากกว่าข้างล่างนะคะ??) สุดท้ายก็เจอลุงคนขับมาบอกว่า แค่จอดรถดูยางน่ะ รถออกวิ่งอีกครั้ง แอนต์เริ่มรู้สึกไม่ค่อยดี เพราะลุงคนขับไม่ยอมคุยกับเธอเลย จึงพยายามโทรหาแฟนหนุ่มและส่งรูปที่ถ่ายรอบๆรถไปให้ และแฟนหนุ่มเธอก็ต้องผงะ...เมื่อรูปที่ส่งมารูปสุดท้าย เป็นรูปของผู้หญิงที่มีลักษณะเละเทะ!! แอนต์เริ่มเจอเรื่องแปลกๆในรถ สุดท้ายเธอก็เห็นทุกอย่าง...ทุกคนในรถกลายเป็นศพที่มีบาดแผลเละเทะทั่วตัว และกำลังคลืบคลานเข้าหาเธอ (ผีโผล่แบบคุ้มค่าตั๋วมาก แถมใช้เอฟเฟ็คแต่งหน้าซะแบบ...โอ้โห...หมดไปกี่บาทคะเนี่ยยย ยิ่งเสียงประกอบนี่กระหึ่มโรงชวนหัวใจวายยยย)ภาพตัดไปที่รถตู้ชนเข้ากับรถเก๋งคันหนึ่งและตกจากทางด่วนลงไป ปั้งงงง!!!!! แอนต์ฟื้นขึ้นมาและตะเกียกตะกายออกจากรถ เรื่องเริ่มเฉลย จริงๆแล้วแฟนที่แอนต์คบอยู่เป็นแฟนของผู้หญิงที่ขึ้นมานั่งข้างๆเธอมาก่อน แต่แอนต์ไป(อ่อย)แย่งมา วันที่ผู้หญิงเลิกกับแฟน เธอขึ้นรถตู้คันนี้ และรถตู้ก็ถูกรถของแอนต์ที่มัวแต่เล่นไลน์ขับชนจนตกทางด่วน ทุกคนเสียชีวิต...การแก้แค้นจึงเกิดขึ้น สุดท้ายแอนต์ก็ถูกรถของแฟนหนุ่มที่ถูกผีหลอกจนขับรถตกทางด่วนลงมาทับ... จบตอนแรกค่ะ (ยาวจัง ตอนต่อไปจะย่อละ)

16 : คดีซ่องทรมาณโสเภณี ท่าล้อซอย 9 (นำแสดงโดยแน็คแฟนฉัน แจ๊สชวนชื่น และน้องเสื้อเขียวที่หล่อเว่ออ > < )

(ตอนนี้จะเอาฮาเป็นส่วนใหญ่นะคะ อารมณ์ขำไปกลัวไป 555) แจ็คกับเพื่อนเข้าไปเที่ยวซ่องลึกลับแห่งหนึ่งที่เพื่อนของเพื่อนแนะนำมาอีกที หลังจากเข้าห้อง ไปเรียบร้อย ก็พบว่าจริงๆแล้วเพื่อนเขามาพาโสเภณีที่ซ่องนี้หนีไปต่างหาก หลังจากเพื่อนหนีไปกับเด็กแล้ว แจ็กกับเพื่อนก็ถูกจับได้ แต่กลับถูกล็อกกุญแจข้อือติดไว้กับแจ๊สชวนชื่นที่เป็นแมงดาคุมซ่อง ทั้งสามพยายามตามหาเพื่อนกับเด็กที่หนีไป แต่สุดท้ายก็พบว่าทั้งคู่กลายเป็นศพไปแล้ว เรื่องเฉลยที่ว่า จริงๆซ่องนี้ร้างมานานแล้ว และเพื่อนกับเด็กคนนั้นก็ตายไปนานแล้ว รวมทั้งตัวแจ๊สเองก็ตายแล้วเหมือนกัน ทั้งสาม(แจ๊สเป็นผีก็กลัวผีกับเค้าด้วย)หนีผีไปเรื่อยๆ โดนหลอกหลายรอบมาก(โดยเฉพาะฉากแลกลิ้นนี่สุดๆเลยคุณเอ๊ยย...เอฟเฟกต์แต่งหน้ากันไม่เสียดายเงินเหมือนเดิมมมม) สุดท้ายพอใกล้ถึงทางออก ผีเพื่อนที่ตาย ก็มาช่วยฟันแขนแจ๊สออกให้ทั้งสองหนีไปได้ แต่ก็ติดประตูเหล็ก...หนีไม่รอด...ถูกผีสาวจับกลับเข้าไปเหมือนเดิม...(ตอนนี้ดูเหมือนจะให้เตรียมพร้อม จะเข้าสู่ช่วงหนักๆของหนัง)

15 : คดีฆ่ายัดช่องแอร์ (นำแสดงโดยแทค ภรัณยู และชาม โอสถานนท์)

แทค นักดนตรีตกยาก เข้าไปพักที่โรงแรมแห่งหนึ่ง ซึ่งจากลักษณะแล้วดูเก่าคร่ำครึ แถมบรรยากาศไม่น่าอยู่เอาซะเลย เขาเปิดแอร์เก่าๆในห้อง แต่มันก็ทำงานได้ไม่ดีนัก หลังจากอาบน้ำออกมาเขาจึงเดินออกไปที่เคาเตอร์เพื่อจะแจ้งเรื่องแอร์ แต่กลับไม่พบใคร (ช่วงนี้คือลุ้นผ้าขนหนูแทคว่าจะหลุดแหล่ไม่หลุดแหล่มาก สาวแท้สาวเทียมก็ฟินหุ่นแทคหายกลัวกันไป 555) พอกลับเข้าห้องเขาก็พบว่าสภาพห้องเละเทะ และโดนผีผู้หญิงคนหนึ่ง สภาพเละเทะ(อีกแล้ว?)หลอก...แต่ก็ยังกลับเข้าไปนอนเหมือนเดิม คราวนี้ไฟดับ เขาเลยวิ่งไปควานหาไฟฉายขึ้นมาส่อง (ชอบช่วงนี้มาก คือเล่นกับการสาดไฟฉายไปมา มันเร้าอารมณ์กลัวผู้ชมได้ดีมากจริงๆ) สุดท้ายเขาก็โดนผีผู้หญิงกระโดดเข้ามาบีบคอ...เรื่องเฉลยที่ชาม ซึ่งเป็นหญิงขายบริการ(น่าจะนะ)โดนผู้ชายที่หิ้วมาด้วยทำรุนแรงใส่ เธอพยายามร้องขอความช่วยเหลือ แทคได้ยินแต่ก็ทำไม่สนใจ สุดท้ายชามก็ถูกฆ่าด้วยการโยนตกจากบันใด...ศพเธอถูกนำไปซ่อนไว้ในช่องแอร์...แทคก็เลยโดนฆ่าด้วยวิธีเดียวกัน...และจบด้วยการถูกยัดศพไว้ในช่องแอร์เช่นเดียวกับชาม

13 : คดีฆ่ายัดกล่อง (นำแสดงโดยกอล์ฟ พิชะยะ และ โดนัท มนัสนันท์)

นนท์(กอล์ฟ)มาหาเพื่อนที่บ้าน โดยเล่าว่าเขาพบศพคนรัก(โดนัท)ตายอยู่กลางห้อง หลังจากเขาตื่นขึ้นมา โดยที่เขายืนยันว่าไม่ได้เป็นคนฆ่า เขาเก็บศพของเธอใส่กล่องและเอาไว้ในรถมาสองวันแล้ว จนศพเริ่มส่งกลิ่น คนในคอนโดเริ่มสงสัย เขาจึงขับรถมาที่บ้านเพื่อนเพื่อขอคำปรึกษา เขาให้เพื่อนช่วยกันยกร่างของคนรักที่อยู่ในกล่อง ย้ายเข้ามาในบริเวณบ้าน...นนท์ตื่นขึ้นมาหลังจากหลับไปสักพัก และพบว่าเพื่อนทุกคนโดนเล่นงานจากวิญญาณของคนรัก เขารีบหนีออกมากจากบ้านและขนศพหญิงสาวไปด้วย เขานำศพเธอเข้ามาในป่าและพยายามจุดไฟเผา แต่ก็โดนเล่นงานเสียก่อน เรื่องเฉลยที่เขาเป็นคนฆ่าคนรักเอง...เขาเคยบวชเป็นพระแต่ก็ถูกยั่วจนต้องสึกออกมาใช้ชีวิตกับเธออีกครั้ง แต่เขาก็จับได้ว่าเธอยังไม่เลิกอาชีพโสเภณี และเธอยังตั้งท้องลูกที่เขาไม่รู้ว่าเป็นลูกของเขาหรือเปล่า หลังจากคนรักพยายามจะหนีเขาไป...เขาก็บันดาลโทสะฆ่าเธอตายด้วยมือของตัวเอง...หลังจากจำเรื่องทั้งหมดได้ เขาก็กระเสือกกระสนกลับออกมาในสภาพสะบักสะบอม และเผาศพของหญิงสาวสำเร็จ... นนท์ขับรถออกมาจากป่าแห่งนั้นด้วยความรู้สึกปนเป แต่สุดท้ายก็ถูกเล่นงานอีกครั้ง...เขาถูกช่วยชีวิตโดยหน่วยกู้ภัย...และพบว่าศพของหญิงสาว...ยังคงอยู่บนรถ...ไม่ได้ถูกเผาไปแต่อย่างใด...เขาถูกจับและส่งตัวมาขังไว้ในห้องขัง...และพบว่า...คนรักไม่ได้จากเขาไปไหนเลย...เธอยังคงอยู่กับเขาตลอดเวลา และจะอยู่ไปเรื่อยๆจนกว่าเขาจะตาย (จขบ.ว่าตอนนี้เป็นตอนที่น่ากลัวสุดของเรื่อง ภาพสวย พล็อตดี  แต่บางเรื่องยังไม่ค่อยสมเหตุสมผลเท่าไร กอล์ฟเล่นดีจนน่าตกใจ เห็นพัฒนาการในการแสดงสูงมาก)

เฮ้อ...เป็นการเขียนสปอยด์ที่ยาวที่สุดตั้งแต่เขียนมา แถมยังเขียนไม่รู้เรื่องที่สุด (ก็มันยาวอ่ะ = =)  ยังไงก็ขอให้สนุกกับการอ่านสปอยด์หนัง และสนุกกับการดูหนังนะคะ จขบ.ขอกลับไปผจญกับการอ่านหนังสือมาราธอนก่อน ไว้เจอกันเรื่องหน้าค่ะ ^ ^


 



วันอาทิตย์ที่ 12 มกราคม พ.ศ. 2557

รีวิวการใช้งาน lenovo a516 จากประสบการณ์จริง 1 สัปดาห์

เอาล่ะค่ะ สำหรับใครที่กำลังสนใจเจ้าตัวนี้อยู่ อยากจะหาข้อมูลก่อนการซื้อมาใช้จริง วันนี้เราจะมารีวิวจากการใช้งานจริงกันแบบหมดเปลือก ไม่อวย ไม่รีวิวแบบเปิดเครื่องครั้งแรกของบางเว็บนะคะ จะพูดถึงปัญหาและข้อดีกันแบบตรงๆเลย
มาดูหน้าตาเจ้าตัวกันก่อน
(รูปจากเน็ต) ตัวที่ได้มาเป็นสีขาวแบบนี้ รูปร่างเพรียวบาง จอใหญ่โตโอ่อ่า ปุ่มไม่รก
ติดฟิล์มมาให้แล้วเรียบร้อย (แต่แอบมีฟองอากาศแถมมาด้วย = =)

บอกอุปนิสัยของเจ้าของก่อน เป็นคนใช้เครื่องเพื่อความบันเทิงเป็นส่วนใหญ่ ไม่เน้นการทำงาน เน้นเล่นเกมส์ ฟังเพลง ดูหนัง เล่นไลน์ ทั้งหลายประมาณนี้
ไม่ต้องเกริ่นนาน เข้าเรื่องเลยดีกว่า

เริ่มจากข้อดีก่อน
- อินเตอเฟทสวย ปรับลูกเล่นของการหมุนหน้าจอ ไอคอนได้เยอะ 
- เข้าเวป เข้า GPS ได้รวดเร็วว่องไว มีฟังค์ชั่นต่างๆครบ
- ไม่ค่อยค้างเท่าไร เทียบกับโทรศัพท์ที่มีแรมใกล้ๆกัน
- ตัวเครื่องสวย หน้าจอใหญ่ 
- แบตอึด ทนนาน เล่นได้ทั้งวัน 
- มีสองซิม
- ทัชได้รวดเร็ว ไหลลื่นหัวแตกกันไปเลย ไม่ค่อยสะดุด
- GPS ใช้งานได้ดี 

ข้อเสีย(จากการใช้งานจริง) 
- เคสหายากมากกกกกกก (เราต้องสั่งพรีออเดอร์จากจีน เพราะหาซื้อยาก แบบมีน้อย)
- ย้ายแอปที่โหลดมาลง sd การ์ดไม่ได้(เลย) เมมในเครื่องมี 2GB เพราะฉะนั้นก็ต้องเล่นลบเล่นลบอยู่ร่ำไป
- เวลาออกแอปมา จะกลับเข้าสู่หน้าเมนู เครื่องจะมีการโหลดอยู่สักพัก (เป็นสี่เหลี่ยมหมุนติ้วๆ) ง่ายๆว่าประมวลผลช้า
- โหลดบางแอปมาเล่นไม่ได้ จะเด้งออกตลอด บางแอปจะกระตุกเป็นเจ้าเข้า  โดยเฉพาะเกมส์ที่มีขนาดไฟล์ใหญ่ๆ เช่น แคนดี้ครัช(อันนี้เด้งออกเลย เล่นไม่ได้) ฟรุตนินจา เป็นต้น
- รองรับ3Gแค่คลื่นความถี่ 900/2100 ใครใช้ดีแทคก็รอดตัวไป เล่นได้ปกติ แต่เราใช้ทรูมูฟ ก็จะค่อนข้างซวยเพราะความถี่ 2100 มันรับได้บางที่เท่านั้น ถ้าเข้าที่อับสัญญาณปั๊ปก็ขึ้นโรมมิ่งตลอด เล่นเน็ตไม่ได้ โทรถามศูนย์บริการก็บอกว่า เครือข่ายความถี่ 2100 มันมีแค่เมืองใหญ่ๆเท่านั้น ยังไม่ครอบคลุมพื้นที่ ดีว่าเรียนอยู่เชียงใหม่เลยยังพอใช้ได้อยู่ ไม่ค่อยมีปัญหา แต่พอกลับบ้าน ก็โรมมิ่งกันยาวๆเลยจ้าา...
- สำหรับคนชอบถ่ายรูป กล้องคงไม่ค่อยถูกใจเท่าไร กล้องหลังถ้าใช้ประกอบแอปยังโอเค แต่กล้องหน้านี่บายเลยจ้าา นอยส์กระจาย นอกจากจะถ่ายในที่แสงมากๆ ก็จะพอถูไถไปได้


ตามความเห็นเรา เครื่องนี้น่าจะเหมาะกับคนวัยทำงานที่ใช้ในการเช็คส่งเอกสาร เข้าเมลล์เข้าเวป เล่นไลน์ แต่ไม่ได้เล่นเกมส์หรือโหลดแอปอะไรมาก เครื่องจะตอบสนองการใช้งานได้ดี ทั้งยังมีสองซิมก็ใช้บริการของสองเบอร์ได้เลย (ซิมที่สองไม่รองรับ 3G) แต่ถ้าชอบเล่นเกมส์หนักๆ โหลดแอปเยอะๆ ก็แนะนำรุ่นที่มีแรมสูงกว่านี้ น่าจะใช้งานได้ดีกว่า แต่ถ้าเทียบตามราคาแล้ว ราคาประมาณนี้ ได้เสปคขนาดนี้ก็คุ้มค่าพอแล้ว

ขอให้สนุกกับการใช้งานสมาร์ทโฟนของทุกท่านนะคะ ^ ^